วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

mjv'gmujp; gmujp;wmp

     บางท่านอาจจะงงๆ

mjv'gmujp; gmujp;wmp

     คำแปลกๆคำนี้ผมเอามาขึ้นเป็นหัวข้อทำไม จริงๆแล้วคำๆนี้มาจากคำว่า "ท่องเที่ยว" กับ  "เที่ยวไทย" ที่พิมพ์ผิดโดยใช้ภาษาอังกฤษนั่นเอง
บางท่านอาจสงสัยอีกแล้วเอามาขึ้นหัวข้อทำไมผมจึงมาแถลงไขดังนี้
  • ท่านรู้หรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้ท่าน Search หาคำว่าท่องเที่ยวโดยพิมพ์เป็น mjv'gmujp; แทนในพี่ Google ของเราก็สามารถหาเจอแล้ว !!!
  • หากท่านไม่เชื่อลองพิมพ์ ดูหนัง (f^soy') ฟังเพลง (ay'gr]') เป็นภาษาอังกฤษดูนะครับ
บางทีการที่ Google ฉลาดขึ้นมามากขนาดนี้อาจจะถูกใจผู้ใช้ internet บ้านๆอย่างเราๆอย่างมากก็ได้นะครับ ที่พิมพ์ไปมองแป้นไปมองจออีกทีอ้าวภาษาผิดทุกทีเลย ต่อจากนี้เราก็คงสบายขึ้นอีกระดับ ^^ และหวังว่าบทความนี้คงถูกใจท่านผู้ชมไม่น้อย ^^

ทีนี้เพื่อนๆคงจะหาเวปผมเจอจากการพิมพ์ผิดๆบน Google ง่ายขึ้นแล้วสินะครับ ^^
ทั้งนี้ทั้งนั้นเหนือสิ่งอื่นใดผมว่าการพิมพ์อย่างถูกต้องเป็นเรื่องที่ดีทีสุดครับ ^^

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

Clip VDO เที่ยวชมบรรยากาศ งานแสดงพลุ

     ภาพบรรยากาศชุดนี้เป็นชุดที่ 4 ของการจุดพลุในงาน Asahi Super Dry Fireworks 2011 ครับ เป็นการแสดงที่อลังการและสุดแสนประทับใจในความสวยงามมากๆครับ







งานนี้ไม่ได้จัดบ่อยๆนะครับยังไงก็ลองติดตามข่าวสารดูกันอีกครั้งนะครับจริงๆผมก็ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้แค่โชคดีที่มีโอกาสได้ไปนะครับรู้สึกว่าจะจัดปีละครั้งเท่านั้นเอง


Click >>> ภาพบรรยากาศงานแสดงพลุ <<< เพื่อชมรูปถ่าย

เที่ยวไทย ไม่ไปไม่รู้

เที่ยว ชมพลุ ณ พระราม 3 กรุงเทพฯ จัดโดย Asahi

     คืนวันเสาร์ที่ 5 มีนาคมผมได้มีโอกาสไปถ่ายพลุเป็นครั้งแรกในงาน Asahi Super Dry Fireworks 2011 ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานพระราม 3 - รัชดา บอกได้เลยว่าทั้งเหนื่อยทั้งสนุกสุดๆครับ ใครที่เบื่อการทีต้องนั่งดูทีวีอยู่บ้านในวันหยุดอยากหาที่เที่ยวแต่ไม่รู้จะไปไหนแนะนำลองหากิจกรรมที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่ทำได้ไม่ยากเลยครับ และงานนี้ผมได้เก็บรูปบรรยากาศวินาทีประทับใจมาฝากท่านผู้ชมด้วยเชิญชมครับ ^^



>




หวังว่าผลงานชุดนี้จะถูกใจท่านผู้ชมนะครับ ^^

Click >>> Clip เที่ยวชมงานแสดงพลุ <<< เพื่อชม Clip VDO บรรยากาศงานแสดงพลุ

อย่าลืมนะครับเมืองไทยถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ สนับสนุนคนไทยเที่ยวไทยครับ

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

เที่ยว วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เก็บตกเขาค้อ

     และแล้วสิ่งที่ผมปารถนาก็มาถึงจนได้ครั้งที่แล้วผมมีโอกาสได้มาเขาค้อแต่ก็เหมือนมาไม่ถึงเพราะวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอันงดงามและเงียบสงบแห่งนี้รถตู้ไม่สามารถลงมาได้ รอบนี้ผมมางานรับปริญญาเพื่อนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็ได้โอกาสมาเก็บตกเที่ยวเขาค้ออีกครั้งแต่จะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอนและแล้วก็มุ่งตรงสู่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วทันทีครั้งนี้มารถยนต์ส่วนตัวก็สบายเลย ^^ พอเข้าไปถึงหน้าวัดก็เย็นแล้วและบรรยากาศเงียบสงบมากพอไปถึงนึกว่าวัดปิดซะแล้วอดแน่ๆ แต่แล้วศรัทธาอันแรงกล้าก็พาผมเดินดุ่ยๆเข้าไปหาทางเข้าจนเจอ ^^ สรุปวัดปิด 18:00 แต่พวกเราไปถึงกัน 17:00 มีเวลาเก็บบรรยากาศและถ่ายรูปเพียง 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีโอกาสได้มาเลย ^^ หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวเขาค้อผมขอแนะนำสถานที่แห่งนี้เลยครับรับรองว่าท่านเดินทางมาไกลแค่ไหนก็หายเหนื่อยแน่นอน เล่าอย่างไรท่านก็คงไม่เชื่อเอาเป็นว่าไปดูรูปกันเลยดีกว่า












     ผมมีโอกาสได้ถ่ายเพียงแค่บรรยากาศโดยรอบเท่านั้น เนื่องด้วยมันเริ่มใกล้เวลาปิดของวัดแล้วและแสงให้ถ่ายก็เหลือน้อยเต็มทีสังเกตุได้จากภาพสุดท้าย แต่ก็เป็นแสงยามเย็นที่สวยจริงๆเพราะบรรยากาศที่นี่เงียบสงบเหมาะแก่การปฎิบัติธรรมมากๆ


     หลักจากนั้นผมก็มีโอกาสได้พักเขาค้อเพิ่มอีก 1 คืน รุ่งเช้าเราต้องไปงานรับปริญญาเพื่อนต่อขากลับก็แวะร้าน Route 12 ร้านนี้เปิดตั่งแต่หัววันเลยเราไปถึงตั้งแต่ 7 โมงก็มีทัวร์มาลงกันแล้วก็แวะซื้อกาแฟถ่ายภาพตามระเบียบ ตามไปชมกันครับ


 เก็บตก Kho In Love ^^





เที่ยวเมืองไทย ไปกับจ๊อบบุ๋ม(JoBuM)
วันนี้ขอลาไปก่อนแล้วครั้งหน้าจะนำรูปสวยๆและทริปดีๆมาฝากกันเรื่อยๆนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

เที่ยว น้ำหนาว น้ำตกเหวทราย เดินป่า

     มาถึงฉบับสุดท้ายของทริป เขาค้อ - ทุ่งแสลงหลวง - น้ำหนาว ผมขอรวบรัดเอา 2 วันสุดท้ายเข้าด้วยกันเลยนะครับ หลังจากพักทุ่งแสลงหลวง 1 คืนเช้ามาเราก็ออกไปชมวิวถ่ายรูปกันเรียบร้อย สายๆหน่อยก็ออกเดินทางต่อก่อนไปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวต่อก็ไปแวะร้านกาแฟชื่อดัง Kho In Love ซึ่งมีที่มาจาก Coffee Hill เก่านั้นเอง คนเยอะมากๆเนื่องจากเราไปกันช่วงหยุดยาวแต่บรรยากาศที่นี่ถือว่าสุดยอดเลยทีเดียวมีให้นมให้หญ้าแกะด้วย เราแวะกันเพียง 1 ชั่วโมงเนื่องจากเราต้องเดินทางไปวัดผาซ่อนแก้วตามโปรแกรมต่อ แต่แล้วก็อดไปผาซ่อนแก้วเนื่องจากรถตู้ลงไม่ได้ทางลงชันมาก T-T เราจึงแวะทานอาหารกลางวันและมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวต่อเลย หลังจากถึงอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวแล้ว ก็หาที่กางเตนท์แล้วก็เดินป่ากันต่อ แวะชมดงมะไฟ แต่ไม่มีให้ชมเนื่องจากไม่ใช่ฤดู T-T เศร้าอีกตามเคย เสร็จแล้วก็มาเดินซื้อของตามร้านค้า ที่นี่ถือว่าเป็นที่ๆเจริญพอสมควรเลยคนเยอะร้านค้าเยอะไม่ต้องกลัวอดตาย ^^ พอทานข้าวเสร็จก็นั่งรถชมสัตว์ป่ากันต่อ เจอลิงลม นกฮูก กระลอกบิน ช้าง 1 ตัว ที่เด็ดที่สุดเลยคือแมวบ้าน O_O (เอาหนะแม้แต่ละอย่างจะไกลและเล็กจนมองไม่ค่อยเห็นแต่ก็ถือว่าได้เห็นละกัน อิอิ)







     วันสุดท้ายต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯแล้วทำไม 4 วันมันช่างผ่านไปไวเสียเหลือเกิน สมดั่งคำโบราณว่า "เวลาแห่งความสุข มักจะผ่านไปไวเสมอ" คืนสุดท้ายที่น้ำหนาวฝนตกทั้งคืนเลยแต่โชคดีมากๆที่บริเวณใกล้ๆที่กางเต็นท์มีศาลาเราก็ย้ายเต็นท์เข้าไปในศาลาแทนรอดตัวไปไม่งั้นได้นอนตากฝนแน่ๆ พอรุ่งเช้าพื้นดินที่เค้าถมดินใหม่ๆเละเป็นโคลนเลยทำให้แพลนที่เราวางไว้ว่าจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นต้องเป็นอันล้มเลิก T-T หลังจากเก็บข้าวของเสร็จเราก็ตกลงกันว่างั้นไปน้ำตกแทนเราจึงมุ่งหน้าไปน้ำตกเหวทรายกันต่อแล้วก็กลับกรุงเทพฯอย่างมีความสุข แม้อะไรต่อมิอะไรจะผิดพลาดบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นทริปที่สนุกและคุ้มมากๆเลยทีเดียว ^^









สรุปคะแนนทริปนี้ 9.9/10
ค่าใช้จ่ายต่อคน 3800 บาท (รวมทุกอย่างตลอดการเดินทาง)


ก่อนหน้า >> Click
ดูทริปนี้ >> Click

เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ^^

เที่ยว ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งนางพญา

     ต่อจากฉบับที่แล้วหลังจากที่เราได้ออกจากเขาค้อมาเราก็มายังทุ่งแสลงหลวงทำการกางเต็นท์เรียบร้อยก็ไปล่องแก่งกันทันที่ ณ ตำบลหนองแม่นา จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือไปชมแมงกะพรุนน้ำจืดแต่พอไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องมาช่วงเดือน มีนา-เมษา T-T อดดูไปแต่ไม่เป็นไรยังพอมีผีเสื้อให้ดูเราก็นั่งเรือพายกันไปคุณลุงพายเรือเล่นมุขตลอดทางชาวบ้านเป็นกันเองดีเยี่ยมเลยครับขนาดคนขับรถตู้ยังไปแจมวงข้าวกับชาวบ้านเลย หลังจากนั้นเราก็มาทานอาหารกลางวันหน้าอุทยานแล้วกลับเข้าไปเพื่อเที่ยวต่อ วางแผนไว้ว่าจะไปล่องแก่งอีกที่นึงเส้นทาง 7 กิโล แต่หลังจากที่เราขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ก็คุยกันเพลินเลยจนลืมดูป้ายบอกทางไปๆมาๆโผล่ทุ่งนางพญาซะงั้น !! ก็ว่าอยู่ว่าทำไม 7 กิโลไกลจัง ที่ไหนได้ 14 กิโล แต่ก็โอเคไหนๆก็มาแล้วก็เอาเป็นว่าเดินป่าเลยแล้วกัน ^^ ที่ทุ่งนางพญาทิวสนเรียงรายสวยมากไอชื้นของกาศระหว่างทางช่างรื่นรมย์เสียยิ่งกระไร ที่ป่าแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสนสองใบทั้งนั้น ถึงจะเดินทางมาไกลแต่ก็บอกได้เลยว่าไม่เสียใจแม้แต่น้อย ระหว่างทางนั่งรถกลับก็แวะตามจุดชมวิวต่างๆเก็บรูปไว้เป็นความทรงจำตลอดทาง














เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ^^

ดูฉบับก่อนหน้า >> Click
ดูฉบับถัดไป >> Click
ดูทริปนี้ >> Click

เที่ยว ทุ่งทานตะวัน เขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์

     เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2553 ผมและเพื่อนๆได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์กัน และได้นำรูปภาพบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของทุ่งทานตะวันจังหวัดสระบุรีซึ่งเป็นทางผ่าน น้ำตกศรีดิษฐ์ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก และที่พักบนเขาค้อมาฝากเผื่อเพื่อนๆจะรักประเทศไทยและอยากออกไปกอดประเทศไทยกันมากขึ้นครับ ^^

     เราเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพกันแต่เช้าแล้วก็แวะชมทุ่งทานตะวันที่สระบุรีซึ่งเป็นทางผ่าน เสร็จแล้วมุ่งหน้าสู่เพชรบูรณ์ก่อนเข้าอำเภอเขาค้อก็ได้แวะทานขนมจีนบ้านคุณตา หลังจากนั้นก็เข้าเขาค้อแวะกราบสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ พอบ่ายแก่ๆก็เข้าที่พักเก็บของ ณ บ้านไร่ระเบียงหมอกต่อด้วยการไปเก็บบรรยากาศยามเย็น ณ น้ำตกศรีดิษฐ์ แล้วก็ทำอาหารเย็นทานกันอย่างเอร็ดอร่อยก่อนเข้านอนด้วยบรรยากาศที่แสนจะเย็นสบาย

ทุ่งทานตะวัน ณ สระบุรี

ขนมจีนบ้านคุณตา ณ เพชรบูรณ์

พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก

แนวระฆัง ณ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก

 ทะเลหมอก ณ บ้านไร่ระเบียงหมอก

น้ำตกศรีดิษฐ์ ณ เขาค้อ
    
 เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ^^

ทริป เที่ยวไทย เขาค้อ น้ำหนาว ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์

Trip BKK - Petchboon 

"สวิตเซอร์แลนด์ แดนสยาม"

4 วัน 3 คืน

DAY 1
6:00 : ล้อหมุนออกเดินทางสู่ เพชรบูรณ์ ระหว่างทางบริการอาหารเช้า 1 มื้อแต่ไม่บริการค่าใช้จ่าย :D
8:00 : แวะชมทุ่งทานตะวันจังหวัดสระบุรี
9:00-9:30 : พักทานอาหารเช้าระหว่างทาง
13:00 : ทานอาหารกลางวัน ขนมจีนบ้านคุณตา
14:00 : เข้าสู่อำเภอเขาค้อ ผ่านเนินมหัศจรรย์ แวะสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคลขอให้พระคุ้มครอง
16:00-17:30 : เที่ยวน้ำตกศรีดิษฐ์
18:00 : เข้าที่พัก @ บ้านไร่ระเบียงหมอก
19:00 : ทำอาหารเย็นทานเอง

Review >>> CLICK <<<

ที่พักไม่มีอาหารเช้าแต่มีอุปกรณ์ทำครัวให้ สามารถเตรียมอาหารสดไปเองได้

DAY 2
05:30-06:30 : ชมทะเลหมอกที่อ่างเก็บน้ำรัตนัยหรือที่ Resort แล้วแต่สะดวก
06:30-08:00 : ทำอาหารเช้าและรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน
09:00 : เดินทางสู่ อช.ทุ่งแสลงหลวง
09:30 : จองที่กางเต็นท์ + กางเต็นท์ให้เสร็จเรียบร้อยพร้อมเที่ยวต่อ
10:00 : ล่องแก่งชมธรรมชาติและผีเสื้อที่ตำบลหนองแม่นา หากจะดูแมงกระพรุนน้ำจืดด้วยต้องไปช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน
12:00 : แวะทางอาหารกลางวันร้านลุงหน้า อช. ทุ่งแสลงหลวง
13:00 : เที่ยว อช. ทุ่งแสลงหลวง ไป ทุ่งนางพยา
14:00 - 17:00 : ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ พร้อมเดินป่า
17:00 - 18:00 : ทานอาหารเย็น ณ ร้านลุงเช่นเดิน อาหารอร่อยถูกปาก
18:00 : อาบน้ำแปลงฟันจับกลุ่มคุยตามภาษาคนเที่ยว แล้วก็เข้านอน

Review >>> CLICK <<<

DAY 3
05:30-06:30 : ชมทะเลหมอกปกคลุมผืนหญ้า @ ทุ่งแสลงหลวง
07:00 : ทานอาหารเช้า
09:00 : ออกจากทุ่งแสลงหลวง แวะชมวิวที่ อช.ภูหินร่องกล้า หรืออาจจะแวะทานกาแฟชื่อดังแล้วแต่เลือก [Route 12,Koh In Love(มีให้นมแกะด้วย)]
11:00 : เดินทางสู่ อช.น้ำหนาว ระยะทางประมาณ 100 km. ระหว่างทางแวะชมความสวยงามที่วัดผาซ่อนแก้ว **ไม่แวะถือว่าไปไม่ถึง**
13:00 : หาที่กางเต็นท์
13:30 : แวะทานอาหารกลางวัน
14:00 - 17:30 : เที่ยว อช. น้ำหนาวยามเย็น (เดินป่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมทิวสน)
18:00 : ทานอาหารเย็น
18:30 : นั่งคุย อาบน้ำ เข้าที่พัก

Review >>> CLICK <<<

DAY 4
05:30-06:30 : ชมพระอาทิตย์ขึ้น
08:00-11:00 : เก็บสัมภาระ แล้วเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศที่ อช. น้ำหนาว หรือ ไปที่น้ำตกเหวทราย-ทรายทอง
13:00 : แวะทานไก่ย่าง อ.วิเชียรบุรี อันโด่งดัง [ร้านตาแป๊ะ / ร้านบัวตอง]
14:00 : ขากลับอาจจะแวะชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
18:00 : ทานข้าวเย็น
19:00 : หมดเวลาสนุกแล้วสิ กลับถึงกรุงเทพฯอย่างปลอดภัยพร้อมส่งท่านถึงบ้าน


++ หมายเหตุ ++
ที่ อช.น้ำหนาวมีที่เที่ยวที่ชมวิวเยอะมากรบกวนท่านผู้อ่านไตร่ตรองดูอีกครั้ง ^^


Review มื้ออาหาร


ไก่ย่าง ส้มตำ ณ เขาค้อซื้อจากน้ำตกศรีดิษฐ์

ข้าวผัดประชุมช้อน มีอะไรก็เอามาผัดๆตามตำรา "ครัวกากๆ" ของแท้

อาหารตามสั่งร้านคุณลุง ณ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง

ข้าวขาหมูระหว่างทางไป อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

มื้อสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ ณ ไก่ย่างบัวตอง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์

*** ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรแกรมและเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้เดินทาง ***

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

เที่ยว ช่องนนทรี ยามราตรี ที่กรุงเทพฯ


    เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 ผมได้มีโอกาสออกทริปกลางคืนเป็นครั้งแรกหลังจากได้ซื้อกล้องมาเมื่อปลายปี 53 พวกผมได้เลือกสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีเป็นสถานที่ถ่ายรูปกันก็ถือว่าคุ้มเลยทีเดียวครับงานนี้นอกจากได้วิวดีๆแล้วยังทำให้รู้ว่ากรุงเทพฯยามค่ำคืนก็วิเศษไม่แพ้ที่ไหนๆเลยครับ ^^

สะพานเชื่อม BTS - BRT ช่องนนทรี กรุงเทพฯ


แยก สาทร-นาราธิวาส


ช่องนนทรี ถือได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวถ่ายรูปยามค่ำคืนที่สวยงามอีกที่หนึ่งในกรุงเทพเลยทีเดียว


อย่ามัวแต่นั่งอยู่หน้าคอมหรือนอนดูทีวีอยู่บ้านนะครับ
ออกไปกอดเมืองไทยแล้วจะรู้ว่าอุ่นแค่ไหน..

เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้..
แล้วไว้จะนำรูปภาพสวยๆมาฝากท่านผู้ชมเรื่อยๆนะครับ ^^